มองอดีต
เมืองอำนาจเจริญ ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๓
โดยท้าวอุปราชเจ้าเมืองจำพรแขวงสุวรรณเขต
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน
ได้อพยพครอบครัวมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตั้งอยู่ที่บ้านค้อใหญ่ ซึ่งก็คือบ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ กิ่งอำเภอลืออำนาจปัจจุบัน
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองลืออำนาจ มีฐานะเป็นเมืองในความปกครองของนครเขมราฐ
พ.ศ. ๒๔๑๐ พระอมรอำนาจ (เสือ อมรสิน) ผู้ครองเมืองอำนาจเห็นว่า
ถ้าย้ายเมืองอำนาจมาขึ้นต่อเมืองอุบลราชธานี จะสะดวกในการติดต่อราชการมากจึงได้มีใบบอกกราบทูลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งพระองค์ได้โปรดเกล้าตามที่ขอ
ให้เมืองอำนาจขึ้นต่อเจ้าผู้ปกครองเมืองอุบลราชธานีตั้งแต่นั้นมา
สมัยพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดิน
ให้เป็นไปตามแบบอย่างยุโรป เมืองอำนาจได้เปลี่ยนฐานะเป็นเมืองอำนาจเจริญ
อยู่ในความปกครองของมณฑลเทศาภิบาลปกครองท้องที่อุบลราชธานี
ทางราชการได้แต่งตั้งท้าวพระยาในราชวงศ์มาปกครองเมืองอำนาจเจริญติดต่อกันมาโดยตลอด
จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๕๕
ได้มีการแต่งตั้งนายอำเภอขึ้นปกครองอำเภออำนาจเจริญ นายอำเภอคนแรกคือ
รองอำมาตย์โทหลวงเอนกอำนาจ (เป้ย สุวรรณกูฎ) ต่อมานายอำเภอท่านนี้ได้ย้ายอำเภออำนาจเจริญตามคำแนะนำของพระยาสุนทรพิพิธ
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขามณฑลอีสาน
ซึ่งพิจารณาเห็นว่าที่ตั้งใหม่เป็นชุมทางสี่แยก ระหว่างเมืองเขมราฐ เมืองอุบล
เมืองมุก
และเมืองยศ (ยโสธร) ทำให้การคมนาคมสะดวกและคาดว่าจะมีความเจริญยิ่งๆ
ขึ้น โดยย้ายจากบ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ ไปตั้งที่บ้านบุ่ง ตำบลบุ่ง อำเภออำนาจเจริญ
จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๕๑๐
ทางราชการได้แยกการปกครองของอำเภออำนาจเจริญออก ๔ ตำบล
ตั้งขึ้นเป็นกิ่งอำเภอหัวตะพาน และยกฐานะเป็นอำเภอหัวตะพานในปี พ.ศ. ๒๕๒๖
พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้แยกการปกครองของอำเภออำนาจเจริญ ๕ ตำบล
ตั้งขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ
เสนางคนิคม
และยกฐานะเป็นอำเภอเสนางคนิคม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖
เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๔
ได้แยกการปกครองของอำเภออำนาจเจริญอีก ๖ ตำบล
ตั้งขึ้นเป็นกิ่งอำเภอลืออำนาจ
และเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๓๖
ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดอำนาจเจริญ ประกาศ
ในราชกิจานุเบกษา ฉบับพิเศษ หน้า ๔,๕,๖, เล่มที่ ๑๑๐ ตอนที่ ๑๒๕
ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๓๖ โดย
พระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
๙๐ วัน คือมีผล
บังคับใช้ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖
เป็นต้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น